การใช้เทคโนโลยีการระบุตำแหน่ง (Geolocation Technology) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในฟาร์มอัจฉริยะ
เทคโนโลยีการระบุตำแหน่ง (Geolocation Technology) มีบทบาทสำคัญในการเกษตรเพราะสามารถช่วยในการติดตามและควบคุมการจัดการแปลงปลูกได้ด้วยความแม่นยำสูง โดยเทคโนโลยีนี้สามารถระบุตำแหน่งที่ตั้งของแปลงปลูกได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีเชิงพื้นที่ เช่น Global Positioning System (GPS) และการใช้แผนที่ดาวเทียม นอกจากนี้ยังสามารถใช้เทคโนโลยีการระบุตำแหน่งในการติดตามการเคลื่อนไหวของสัตว์เลี้ยงหรือรถเกี่ยวข้าวในการเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งช่วยให้การบริหารจัดการเกษตรเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีการระบุตำแหน่ง (Geolocation technology) มีการนำมาใช้ในการเกษตรเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเกษตรสามารถติดตามและควบคุมการให้บริการแก่พืชหรือสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี GPS (Global Positioning System) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น LBS (Location-Based Service) หรือ RFID (Radio-Frequency Identification) เพื่อระบุตำแหน่งของพืชหรือสัตว์ในพื้นที่เกษตรกรรม นอกจากนี้ยังสามารถนำเทคโนโลยีระบุตำแหน่งมาใช้ในการจัดการฟาร์มแบบอัจฉริยะ โดยการติดตั้งเซ็นเซอร์หรืออุปกรณ์ที่สามารถระบุตำแหน่งของพืชหรือสัตว์ได้ เพื่อให้ผู้ประกอบการเกษตรสามารถติดตามการเคลื่อนไหวและสุขภาพของพืชหรือสัตว์ได้อย่างรวดเร็ว และมีการแจ้งเตือนเมื่อพบสถานการณ์ผิดปกติ เช่น การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิหรือความชื้นในพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเกษตรสามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตและส่งออกผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจเกษตรกรรมด้วยการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตที่คุณภาพดีขึ้น
การใช้เทคโนโลยีการระบุตำแหน่ง (Positioning Technology) อย่าง Global Positioning System (GPS) หรือการระบุตำแหน่งโดยใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ อย่าง RFID, QR code, หรือ Bluetooth Beacon สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บเกี่ยวผลผลิตในฟาร์มอัจฉริยะได้โดยมีข้อดีดังนี้
1. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บเกี่ยวผลผลิต
การระบุตำแหน่งช่วยให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยทำให้เก็บเกี่ยวได้ถูกต้องและไม่สับสน ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในกระบวนการเก็บเกี่ยวได้มากขึ้น การระบุตำแหน่งช่วยลดความผิดพลาดในกระบวนการเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่น การเก็บเกี่ยวผลไม้หรือพืช โดยที่ผลไม้หรือพืชที่เก็บเกี่ยวมาสามารถระบุได้ว่ามาจากแปลงปลูกใด และเวลาใด ทำให้สามารถตรวจสอบความสมบูรณ์ของผลผลิต และสามารถติดตามตลอดกระบวนการการจัดการ
การระบุตำแหน่งยังสามารถช่วยในการตรวจสอบสภาพแวดล้อมในแต่ละแปลงปลูก โดยการตรวจวัดค่าอุณหภูมิ ความชื้นในดินและอากาศ สามารถทำให้เกษตรกรสามารถปรับปรุงการจัดการในแต่ละแปลงได้อย่างตรงประเด็น นอกจากนี้ การระบุตำแหน่งยังช่วยให้การตรวจสอบและควบคุมการใช้สารเคมีและปุ๋ยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถกำหนดปริมาณและเวลาที่เหมาะสมในการให้ปุ๋ยและสารเคมี ลดการใช้งานที่ไม่จำเป็นและลดความเสี่ยงในการเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมและผู้บริโภคได้เช่นกัน
นอกจากนี้ การระบุตำแหน่งยังช่วยให้สามารถติดตามสถานะของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆในฟาร์มได้ และสามารถตรวจสอบและบันทึกปริมาณการใช้พลังงานและน้ำในแต่ละช่วงเวลา ทำให้เกษตรกรสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงความสมบูรณ์ของฟาร์มและผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทางปฏิบัติ เทคโนโลยีการระบุตำแหน่งที่ใช้ในฟาร์มอัจฉริยะสามารถประกอบด้วยเทคโนโลยีต่างๆ เช่น การใช้เซนเซอร์ GPS, เทคโนโลยีไร้สาย และเทคโนโลยีเช่นอื่นๆที่มีความสามารถในการระบุตำแหน่ง เช่น RFID, Bluetooth, ZigBee และ Wi-Fi ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานได้แม้ในสภาวะที่ไม่มีแสงและในที่ที่มีความหนาแน่นของวัตถุกีดขวาง การระบุตำแหน่งเหล่านี้ช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการและปรับปรุงกระบวนการการผลิตของฟาร์มอัจฉริยะได้อย่างมากขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้งานมีข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจทางธุรกิจในการจัดการฟาร์มอัจฉริยะอย่างมีประสิทธิภาพ
2. ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวางแผน
การระบุตำแหน่งช่วยให้สามารถวางแผนการเก็บเกี่ยวและการจัดการแปลงเพาะปลูกได้อย่างแม่นยำ ลดความผิดพลาดในการวางแผนและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรในฟาร์ม
การระบุตำแหน่งยังช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวางแผนการใช้ทรัพยากรในฟาร์มอัจฉริยะเช่นกัน เช่น การวางแผนการใช้น้ำในการเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้น้ำถูกใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและไม่เกินกว่าที่จำเป็น การระบุตำแหน่งยังช่วยวางแผนการใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบุตำแหน่งที่มีการระบายน้ำและพื้นที่ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การระบุตำแหน่งยังช่วยป้องกันการใช้ทรัพยากรเกินกว่าที่จำเป็นในการเลี้ยงสัตว์หรือปลูกพืช และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดการทรัพยากรในฟาร์มอัจฉริยะเช่นการใช้ปุ๋ย โดยการระบุตำแหน่งช่วยให้สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ยในพื้นที่และเวลาที่เหมาะสมได้มากขึ้น ทั้งนี้จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไรให้กับฟาร์มอัจฉริยะได้ด้วย
นอกจากนั้น เทคโนโลยีการระบุตำแหน่งยังช่วยให้เกิดการตรวจสอบและควบคุมการเคลื่อนไหวในฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดที่สามารถเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีการระบุตำแหน่ง เช่น GPS หรือการใช้เซ็นเซอร์เครื่องยนต์ เพื่อตรวจสอบการเคลื่อนไหวของรถเกี่ยวข้าว การเคลื่อนย้ายสินค้า และการเคลื่อนย้ายเครื่องจักร เป็นต้น ทำให้สามารถควบคุมและตรวจสอบการทำงานได้ตลอดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพและมีความมั่นคงขึ้น
3. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสัตว์
การระบุตำแหน่งช่วยให้สามารถติดตามสถานะของสัตว์ได้อย่างแม่นยำ และตรวจสอบว่าสัตว์เป็นปกติหรือไม่ ทำให้สามารถระบุสุขภาพของสัตว์ได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสัตว์ในฟาร์ม
การระบุตำแหน่งในการดูแลสัตว์ในฟาร์มอัจฉริยะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสัตว์ได้หลายแง่หลายด้าน เช่น การตรวจสอบและบันทึกประวัติการเคลื่อนไหวของสัตว์ การตรวจจับความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมและสุขภาพของสัตว์ และการระบุสถานที่ที่สัตว์พบบ่อย นอกจากนี้ยังสามารถใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์เพื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศ อุณหภูมิ และความชื้นในสิ่งแวดล้อมที่สัตว์อยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบว่าสิ่งแวดล้อมมีผลต่อสุขภาพของสัตว์หรือไม่ ทั้งนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหรือปัญหาสุขภาพของสัตว์ในฟาร์มอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้การระบุตำแหน่งยังช่วยในการเฝ้าระวังและป้องกันการถูกขโมยหรือการเข้าไปในพื้นที่ของสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
การใช้เทคโนโลยีการระบุตำแหน่งในการดูแลสัตว์ในฟาร์มอัจฉริยะยังช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อโรคหรือการแพร่เชื้อโรคในฟาร์มได้อีกด้วย โดยสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของสัตว์แต่ละตัวและการประเมินสุขภาพของสัตว์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถตรวจสอบสุขภาพของสัตว์และดำเนินการรักษาโรคได้อย่างทันเวลา นอกจากนี้ เทคโนโลยีการระบุตำแหน่งยังช่วยให้สามารถตรวจสอบและปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในฟาร์มเพื่อให้เหมาะสมกับการเลี้ยงสัตว์ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้สามารถลดการใช้สารเคมีในการเลี้ยงสัตว์และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรในฟาร์มได้ด้วย
4. ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
การระบุตำแหน่งช่วยให้สามารถตรวจสอบและจำกัดพื้นที่เข้าออกในแปลงปลูกได้ ทำให้ลดความเสี่ยงของการบุกรุกและป้องกันการโจรกรรมในฟาร์ม
การระบุตำแหน่งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานในฟาร์มได้อีกด้วย เช่น การระบุตำแหน่งเครื่องจักรที่ใช้ในการทำงานในแปลงปลูก และการติดตั้งเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่มีการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต ทำให้สามารถตรวจสอบและควบคุมการทำงานได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ การระบุตำแหน่งยังช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในฟาร์ม เช่น การระบุตำแหน่งสายไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในฟาร์ม ทำให้สามารถป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยการตรวจสอบและบันทึกสถานที่และเวลาที่เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าถูกเปิดหรือปิดก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยปรับปรุงความปลอดภัยในฟาร์มได้อย่างมากขึ้น
การระบุตำแหน่งยังช่วยในการตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ในฟาร์ม โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ต้องการการบำรุงรักษาและการตรวจสอบประสิทธิภาพ เช่น ระบบรดน้ำอัตโนมัติ และระบบควบคุมอุณหภูมิ การระบุตำแหน่งที่แม่นยำจะช่วยให้สามารถตรวจสอบสถานะและประสิทธิภาพของอุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การระบุตำแหน่งยังช่วยให้สามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิและความชื้นในฟาร์ม เพื่อป้องกันการเกิดสภาวะที่ไม่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงสัตว์และการปลูกพืช ทั้งนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานในฟาร์มอย่างมากขึ้นด้วย
5. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการฟาร์ม
การระบุตำแหน่งช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ทำให้สามารถวิเคราะห์และประเมินผลการปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ดีขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรในฟาร์ม การระบุตำแหน่งช่วยให้เก็บข้อมูลของพืชและสัตว์ได้มากขึ้นและถูกต้อง ทำให้ผู้จัดการฟาร์มสามารถบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มการตัดสินใจที่ถูกต้องต่อการปรับปรุงการจัดการทั้งหมด
การระบุตำแหน่งในฟาร์มช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น กล้องวงจรปิด และเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมในฟาร์ม เช่น อุณหภูมิ ความชื้น ระดับน้ำ ระดับสารอาหารในดิน และอื่นๆ ซึ่งสามารถรวบรวมและบันทึกไว้ในระบบได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ เทคโนโลยีการระบุตำแหน่งยังช่วยให้สามารถติดตามและจัดการทรัพยากรได้ด้วยประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเกี่ยวผลผลิต การจัดการแปลงปลูก หรือการดูแลสัตว์ในฟาร์ม ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการฟาร์มและลดการสูญเสียทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การระบุตำแหน่งในการเก็บข้อมูลของพืชและสัตว์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ไม่เพียงแค่ช่วยลดเวลาในการเก็บข้อมูล แต่ยังช่วยเพิ่มความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดการฟาร์มสามารถตรวจสอบสถานะของพืชและสัตว์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจได้ดีขึ้นว่ามีปัญหาอะไรบ้างและต้องปรับปรุงอย่างไร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทั้งหมดของฟาร์ม นอกจากนี้ การระบุตำแหน่งยังช่วยให้ผู้จัดการฟาร์มสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับปรุงการจัดการฟาร์มได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรและลดความสูญเสียในการดำเนินธุรกิจฟาร์ม
6. ช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียผลผลิต
การระบุตำแหน่งช่วยให้สามารถติดตามสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ และรู้ว่าผลผลิตอยู่ในสภาพที่เหมาะสมหรือไม่ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียผลผลิตจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
การระบุตำแหน่งในการติดตามสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมสามารถช่วยให้ผู้จัดการฟาร์มมีข้อมูลในการตัดสินใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการจัดการแปลงปลูกและการดูแลสัตว์ เช่น การปรับปรุงระบบน้ำในกรณีที่มีฝนตกหนักหรือแล้งเกินไป หรือการปรับแปลงพันธุ์สัตว์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเพื่อเพิ่มผลผลิต โดยที่การติดตามข้อมูลเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียผลผลิตจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม และช่วยปรับปรุงการจัดการฟาร์มให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคตด้วย
การระบุตำแหน่งยังช่วยให้ผู้จัดการฟาร์มสามารถตรวจสอบและจัดการกับโรคและแมลงที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตได้โดยรวดเร็วก่อนที่จะเกิดความเสียหายได้มากขึ้น นอกจากนี้ การระบุตำแหน่งยังช่วยให้สามารถวางแผนการเลือกใช้ปัจจัยการผลิตที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ และตัดสินใจในการเลือกพันธุ์พืชหรือสัตว์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและตลาดได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงในการสูญเสียผลผลิตในอนาคตอีกด้วย
7. ช่วยให้การเก็บข้อมูลเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การระบุตำแหน่งช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่และสภาพแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกต่อการนำข้อมูลไปวิเคราะห์ ทำให้การวิเคราะห์และการตัดสินใจในการจัดการฟาร์มเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การระบุตำแหน่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ช่วยให้การเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถระบุตำแหน่งของพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องได้อย่างแม่นยำ ด้วยเทคโนโลยีเช่นเซ็นเซอร์ ระบบเน็ตเวิร์กไร้สาย หรือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะช่วยให้การเก็บข้อมูลเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวกต่อการนำข้อมูลไปใช้งานต่อไป นอกจากนี้การระบุตำแหน่งยังช่วยลดความผิดพลาดในการเก็บข้อมูลและเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจในการจัดการทรัพยากรในฟาร์มอีกด้วย
การระบุตำแหน่งยังช่วยให้การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์และพืชในฟาร์มเป็นไปได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพด้วย โดยสามารถบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์ การฉีดพ่นสารเคมี การให้อาหาร และการดูแลรักษาสัตว์ได้อย่างละเอียดอ่อน ทำให้ผู้จัดการฟาร์มสามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างเหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรในฟาร์มได้ดีขึ้น นอกจากนี้การเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และการตัดสินใจในการจัดการฟาร์มยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาในการผลิต และช่วยเพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด
8. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเสนอผลผลิต
การระบุตำแหน่งช่วยให้สามารถนำเสนอผลผลิตแบบอัตโนมัติได้ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือ ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเตรียมการนำเสนอผลผลิตให้กับลูกค้า
การระบุตำแหน่งที่แม่นยำจะช่วยให้ผู้จัดการฟาร์มสามารถระบุพื้นที่ของการผลิตแต่ละกลุ่มได้อย่างถูกต้องและเป็นระบบ ซึ่งสามารถนำข้อมูลนี้มาใช้ในการจัดการและวางแผนการผลิตได้เช่นกัน นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีการระบุตำแหน่งยังช่วยลดความเสี่ยงในการผิดพลาดและเพิ่มความแม่นยำในการประเมินผลผลิตของแต่ละพื้นที่
เมื่อมีข้อมูลผลผลิตที่ถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือ ผู้จัดการฟาร์มสามารถนำข้อมูลนี้มาใช้ในการสร้างรายงานผลผลิตและนำเสนอผลผลิตให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำเสนอผลผลิตแบบอัตโนมัติจะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเตรียมการและนำเสนอผลผลิต นอกจากนี้ การนำเสนอผลผลิตที่มีความถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือยังช่วยเพิ่มความไว้วางใจของลูกค้าในผลิตภัณฑ์ของคุณด้วย
ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีการระบุตำแหน่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บเกี่ยวผลผลิตในฟาร์มอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประโยชน์สูงสุด
การใช้เทคโนโลยีการระบุตำแหน่งในฟาร์มอัจฉริยะไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บเกี่ยวผลผลิตเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในหลายๆ ด้านเช่นด้านการจัดการทรัพยากรน้ำและปุ๋ย การดูแลสัตว์ การควบคุมโรคและศัตรูพืช และอื่นๆ อีกมากมาย
ตัวอย่างเช่นการใช้เทคโนโลยีการระบุตำแหน่งสามารถช่วยให้เก็บข้อมูลการใช้น้ำและปุ๋ยได้รวดเร็วและแม่นยำ โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบการจัดการน้ำและปุ๋ยอัตโนมัติ ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรและประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากกว่าการใช้วิธีแบบเดิมๆ
นอกจากนี้ เทคโนโลยีการระบุตำแหน่งยังช่วยให้สามารถควบคุมสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บนสัตว์ เพื่อตรวจสอบสุขภาพและสถานะของสัตว์ เช่น การติดตามตำแหน่งของสัตว์ เมื่อสัตว์ต้องการการรักษาพยาบาลหรือวัคซีนเสริมสุขภาพ การตรวจวัดอุณหภูมิของสัตว์ เป็นต้น