การใช้เทคโนโลยีโดรน (Drone Technology) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการและควบคุมภายในฟาร์มอัจฉริยะ
เทคโนโลยีโดรน (Drone Technology) คือ เทคโนโลยีการสร้างและใช้งานโดรน หรือ UAV (Unmanned Aerial Vehicle) ซึ่งเป็นอากาศยานที่ไม่มีผู้บังคับบัญชาภายในอากาศยาน เทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจมากในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากมีความสามารถในการใช้งานหลากหลายและมีประสิทธิภาพสูงในการช่วยในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบแปลงปลูกพืช การตรวจสอบสภาพภูมิประเทศ การส่งเสริมการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น โดรนสามารถดำเนินการในพื้นที่ที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปได้ง่าย หรืออาจเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อความปลอดภัยของมนุษย์ อีกทั้งยังช่วยลดเวลาในการดำเนินการและเพิ่มความแม่นยำในการทำงานด้วย
ในการเกษตร โดรนสามารถใช้ในการตรวจสอบแปลงปลูกพืชเพื่อสำรวจสภาพและตรวจวัดอัตราการเจริญเติบโตของพืช ปรับปรุงแผนการปลูกและการดูแลรักษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้โดรนยังสามารถใช้ในการฉีดสารเคมีหรือปุ๋ยในพื้นที่ใหญ่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ
การใช้เทคโนโลยีโดรน (Drone Technology) ในการจัดการและควบคุมภายในฟาร์มอัจฉริยะมีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากมีผลกระทบต่อการดำเนินงานและประสิทธิภาพของการเกษตรในด้านต่างๆ ดังนี้
- ประหยัดเวลาและแรงงาน
การใช้โดรนสามารถช่วยลดเวลาและแรงงานที่จำเป็นในการตรวจสอบแปลงปลูก การดูแลรักษาพืช การเก็บเกี่ยวผลผลิต และการป้องกันศัตรูพืช โดยโดรนสามารถทำงานได้รวดเร็วและอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงานในการดูแลแปลงปลูก - ความแม่นยำในการปฏิบัติงาน
โดรนสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูล การพ่นสารเคมีหรือการตรวจสอบสภาพพื้นที่ เนื่องจากโดรนสามารถบินอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ และสามารถส่งสัญญาณกลับมายังฐานควบคุมอย่างรวดเร็ว - การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล
โดรนสามารถเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินสภาพและความพร้อมของแปลงปลูก ไม่ว่าจะเป็นการวัดสิ่งแวดล้อม การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพืช และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนการจัดการแปลงปลูก
การใช้เทคโนโลยีโดรนเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการและควบคุมภายในฟาร์มอัจฉริยะได้มากมาย ด้วยการส่งลูกสูบอากาศจากโดรนไปยังพื้นที่ที่ต้องการให้ละอายุด้วยฉนวนหรือสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ซึ่งช่วยลดการใช้สารเคมีและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการศัตรูพืชและอื่นๆ อีกทั้งยังช่วยในการสำรวจพื้นที่และตรวจวัดสภาพพื้นที่เพื่อประเมินสภาพของพืชและดินในฟาร์มได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อการดูแลรักษาอุปกรณ์ภายในฟาร์มและการตรวจสอบการทำงานของเครื่องจักรในฟาร์มอัจฉริยะได้ด้วย การใช้เทคโนโลยีโดรนในฟาร์มอัจฉริยะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการและควบคุมได้ในหลายๆ ด้าน เช่น
- การสำรวจพื้นที่
โดรนสามารถใช้เพื่อสำรวจพื้นที่ของฟาร์มให้ได้ทั้งระดับพื้นที่ขนาดใหญ่และระดับโครงสร้าง เช่น การสำรวจการกระจายของพื้นที่ปลูกพืช การตรวจสอบสภาพโครงสร้างภายในฟาร์ม เป็นต้น การสำรวจพื้นที่ด้วยโดรนเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการสำรวจและทำแผนที่ของพื้นที่ในฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเครื่องมือที่มีความสามารถในการบันทึกภาพถ่ายและวิดีโอสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการจัดการฟาร์ม โดยตัวอย่างเช่น โดรนสามารถช่วยสำรวจพื้นที่ปลูกพืชโดยตรวจสอบพื้นที่ที่มีการแตกต่างของการเจริญเติบโตของพืช หรือการตรวจสอบสภาพโครงสร้างภายในอาคารในฟาร์มเพื่อเช็คปัญหาและการดูแลรักษาอาคารฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้โดรนในการสำรวจพื้นที่สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว และสามารถช่วยลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเกษตรกรได้ด้วย - การตรวจสอบสภาพพื้นที่และสิ่งแวดล้อม
โดรนสามารถใช้เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่และสิ่งแวดล้อม เช่น การตรวจสอบระดับน้ำในแม่น้ำหรือลำธาร การตรวจสอบการระบายน้ำของแปลงปลูก เป็นต้น การใช้โดรนเพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่และสิ่งแวดล้อมในการเกษตรมีประโยชน์มากมาย เพราะสามารถช่วยให้เกษตรกรสามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบๆ แปลงปลูกได้อย่างรวดเร็วและทันเวลา เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในแปลงปลูกหรือฟาร์มได้ นอกจากนี้โดรนยังสามารถช่วยในการจัดการสิ่งแวดล้อมรอบๆ แปลงปลูกได้ด้วย เช่น การตรวจสอบคุณภาพดิน การวิเคราะห์พื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกพืช การตรวจสอบสภาพอากาศและสภาพอากาศในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรได้วางแผนการเพาะปลูกและจัดการแปลงปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้น โดรนยังสามารถใช้ในการตรวจวัดคุณภาพดิน และพืชภายในแปลงปลูก โดยใช้เทคโนโลยีการสแกนดินและพืชด้วยเลเซอร์ (LIDAR) หรือกล้องถ่ายภาพอินฟราเรด (Infrared Camera) ที่ช่วยตรวจจับข้อมูลเกี่ยวกับความหนาแน่นของพืช ความสม่ำเสมอในการปลูก และโรคที่อาจมีอยู่ในพืช นอกจากนี้ โดรนยังสามารถใช้ในการส่งสินค้าเกษตร ในกรณีที่ต้องการส่งสินค้าจากฟาร์มไปยังสถานที่ต่างๆ โดยอาจลดความเสี่ยงของการเกิดการชนกับรถบรรทุกและรถขนส่งใหญ่ และเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดส่งสินค้าอีกด้วย - การตรวจสอบแปลงปลูก
โดรนสามารถใช้ส่องตรวจสอบพื้นที่เพื่อตรวจสอบสภาพและความพร้อมของแปลงปลูก ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบความชื้นในดิน, สภาพดิน, หรือความสม่ำเสมอของการกระจายน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถสำรวจแปลงปลูกเพื่อหาจุดที่ต้องการการเตรียมดินหรือวางปลูกได้อย่างตรงไปตรงมา
โดรนสามารถใช้ส่องตรวจสอบพื้นที่เพื่อตรวจสอบสภาพและความพร้อมของแปลงปลูกได้ โดยการส่องด้วยโดรนจะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบแปลงปลูก และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการแปลงปลูกด้วยการเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อมและพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยตรวจสอบสภาพของพื้นที่และตรวจสอบการกระจายน้ำหรือการให้น้ำในแปลงปลูกเพื่อช่วยปรับปรุงการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นได้ด้วย
นอกจากการตรวจสอบความพร้อมของแปลงปลูกและสภาพดินแล้ว โดรนยังสามารถใช้สำหรับการศึกษาและวิเคราะห์พื้นที่ที่มีการเผชิญกับปัญหาเชิงสิ่งแวดล้อม เช่น การสำรวจคุณภาพอากาศ การตรวจสอบการกำจัดวัชพืช การวิเคราะห์การเจริญเติบโตของพืช และการตรวจสอบการระบายน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และวางแผนการเพาะปลูกในอนาคตด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เกษตรกรสามารถปรับปรุงการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและยังสามารถลดต้นทุนการเพาะปลูกได้อีกด้วย
โดรนสามารถช่วยเก็บข้อมูลเพื่อประเมินสภาพแปลงปลูกได้มากมาย เช่น การวัดอุณหภูมิและความชื้นในดิน เพื่อประเมินความเหมาะสมของพืชในการเจริญเติบโต การวัดความเข้มแสงและอัตราการสะสมอาหารของพืช เพื่อประเมินสุขภาพของพืช การสแกนรูปภาพทางอากาศเพื่อวิเคราะห์การกระจายพื้นที่ในแปลงปลูก เพื่อวางแผนการใช้ที่ดินให้เหมาะสม และอื่นๆอีกมากมาย การใช้โดรนในการเก็บข้อมูลนี้ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิมโดยใช้แรงงานมนุษย์ และยังช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเก็บข้อมูลด้วยความสามารถในการบินและความละเอียดของกล้องถ่ายภาพในโดรนที่ใช้ในการเก็บข้อมูล - การจัดการแปลงปลูก
โดรนสามารถใช้เพื่อจัดการแปลงปลูก เช่น การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของดิน การตรวจสอบสภาพอากาศ การฉีดพ่นสารเคมีเพื่อป้องกันศัตรูพืช เป็นต้น โดรนสามารถช่วยในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินสภาพของแปลงปลูก ไม่ว่าจะเป็นการวัดสิ่งแวดล้อมหรือการเก็บข้อมูลอื่นๆ เพื่อวิเคราะห์และวางแผนการจัดการแปลงปลูกให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการพ่นสารเคมีหรือปุ๋ยโดยอัตโนมัติในตำแหน่งที่ต้องการ โดยช่วยประหยัดเวลาและแรงงานที่จำเป็น
โดรนสามารถช่วยในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินสภาพของแปลงปลูกได้ โดยสามารถส่องดูพื้นที่และจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพดินและองค์ประกอบของดิน เช่น ความชื้นในดิน ค่า pH ของดิน ความเค็มของดิน สภาพภูมิประเทศ และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการปลูกพืช นอกจากนี้ยังสามารถส่งกล้องถ่ายภาพทางอากาศเพื่อวิเคราะห์สภาพที่สำคัญของแปลงปลูก เช่น ระบบการนำน้ำ การจัดการปัญหาศัตรูพืช เป็นต้น โดยข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับจะช่วยให้เกษตรกรสามารถวางแผนการจัดการแปลงปลูกให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและลดความเสี่ยงในการลงทุนในการผลิตพืชได้มากขึ้น
โดรนยังสามารถใช้สำหรับการเก็บภาพถ่ายและวิดีโอของแปลงปลูกได้ เพื่อตรวจสอบสภาพของพืชและการเจริญเติบโต โดยจะช่วยให้เกษตรกรสามารถตรวจสอบสภาพของแปลงปลูกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ตรวจสอบพื้นที่ที่มีอาการเหี่ยวย่น หรือเจ็บป่วย และสามารถวิเคราะห์ภาพเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้โดรนในการส่งสินค้าที่จำเป็นในการเกษตร เช่น การส่งเมล็ดพันธุ์ สารเคมี หรืออุปกรณ์เกษตรต่างๆ เพื่อลดการใช้งานของพื้นที่และทำให้เกษตรกรสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น นอกจากนี้ โดรนยังสามารถใช้ในการส่งสินค้าเข้าสู่พื้นที่ที่มีการระบาดของโรคหรือภัยพิบัติ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนในการดำเนินชีวิตในสภาวะฉุกเฉินได้ด้วย - การส่งสินค้า
โดรนสามารถใช้ส่งสินค้าไปยังตลาดหรือโกดังได้เช่นกัน การใช้โดรนส่งสินค้าจะช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง เพราะไม่จำเป็นต้องใช้บริการขนส่งทางบกที่มีต้นทุนสูง นอกจากนี้ การใช้โดรนยังช่วยลดเวลาในการจัดส่ง และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าด้วย ในบางกรณี เช่นการส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อออนไลน์ โดรนสามารถจัดส่งสินค้าถึงบ้านลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย ด้วยการควบคุมการบินของโดรนได้ในระยะไกลและเกี่ยวกับความปลอดภัยสาธารณะด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การใช้โดรนในการส่งสินค้ายังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและการทดสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการใช้งานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สูงสุดต่อการใช้งานจริงในอนาคต
การใช้โดรนในการส่งสินค้ายังมีความเป็นไปได้ในหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น สินค้าออนไลน์, ยาและอุปกรณ์การแพทย์, อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม, และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยสามารถช่วยลดเวลาในการส่งสินค้าได้มาก รวมถึงช่วยลดการเสียหายของสินค้าในระหว่างการขนส่งด้วยการส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การใช้โดรนยังช่วยลดการสั่นสะเทือนของสินค้าที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการขนส่งด้วยทางบก และยังช่วยลดการปลอมแปลงในกระบวนการขนส่งเนื่องจากสามารถตรวจสอบต้นทางและปลายทางได้อย่างแม่นยำ - การตรวจสอบสภาพพื้นที่ภายนอกฟาร์ม
โดรนสามารถใช้เพื่อตรวจสอบโดยใช้เซ็นเซอร์และกล้องติดตั้งบนโดรนเพื่อตรวจสอบคุณภาพของดิน ปริมาณน้ำฝน การเตรียมดินเพื่อการปลูกพืช รวมถึงการตรวจวัดคุณภาพอากาศ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์และวางแผนการเกษตรในฟาร์มอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดรนสามารถใช้งานเพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ภายนอกฟาร์มได้ เช่น การตรวจสอบสภาพอากาศเพื่อวิเคราะห์ความเหมาะสมของการเก็บเกี่ยวหรือการจัดการฟาร์ม หรือการตรวจสอบสภาพถนนหรือเส้นทางขนส่งเพื่อวางแผนการขนส่งสินค้า นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานเพื่อการดูแลความปลอดภัยและการควบคุมระบบการจราจรได้อีกด้วย
การใช้โดรนเพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ภายนอกฟาร์มสามารถช่วยให้เกษตรกรสามารถตรวจสอบสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการเกษตรได้อย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำสูง นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบโรคพืชและแมลงศัตรูพืชที่อาจมาลงบนพื้นที่และส่งผลกระทบต่อการเกษตร อีกทั้งยังสามารถใช้ในการตรวจสอบสภาพถนนและทางเข้า-ออกสำหรับการขนส่งผลิตภัณฑ์เกษตรได้เช่นกัน โดยสามารถช่วยลดเวลาและต้นทุนในการตรวจสอบและควบคุมสภาพแวดล้อมได้มากขึ้น - การพ่น ปุ๋ย หรือ สารเคมี
โดรนสามารถใช้ในการป้องกันศัตรูพืชและโรคพืชโดยสามารถแบ่งพ่นสารได้อย่างแม่นยำและลดปริมาณสารเคมีที่ใช้ลงได้ เนื่องจากสามารถระบุพื้นที่ที่ต้องการพ่นสารและปริมาณที่เหมาะสมได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งการพ่นสารได้ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและสภาพพื้นที่ในแต่ละครั้ง ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้สารเคมีและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น
โดรนสามารถพ่นสารเคมีได้ โดยทั่วไปจะใช้กันในการควบคุมแมลงศัตรูพืช หรือเชื้อราที่ทำให้พืชเป็นโรค โดยการพ่นสารเคมีด้วยโดรนจะช่วยลดการใช้งานแรงงานและเวลาในการปฏิบัติงาน และยังสามารถควบคุมปริมาณสารที่ใช้ได้อย่างแม่นยำ ช่วยประหยัดทรัพยากรและลดต้นทุนการผลิตได้เช่นกัน
โดรนสามารถพ่นสารเคมีหรือปุ๋ยลงบนแปลงปลูกได้ตามจุดที่ต้องการ โดยการพ่นสารเคมีด้วยโดรนช่วยประหยัดเวลาและแรงงานที่จำเป็น ในขณะที่สามารถควบคุมปริมาณและชนิดของสารเคมีที่ใช้ได้อย่างเหมาะสมกับพื้นที่และวัตถุประสงค์การใช้งานในแต่ละครั้ง นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสสารเคมีของผู้ใช้งานหรือผู้อยู่ใกล้เคียงด้วย
โดรนที่ใช้ในการพ่นสารเคมีนั้นมีความหลากหลายในการใช้งาน โดยสามารถใช้ในการพ่นสารเคมีในการกำจัดแมลงศัตรูพืชหรือวัชพืช โดยการใช้โดรนนี้จะช่วยให้การพ่นสารเคมีมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากสามารถจัดการให้สารเคมีกระจายทั่วทั้งแปลงได้เท่าที่ต้องการ และยังช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสสารเคมีของพนักงานที่ต้องพ่นด้วยมืออีกด้วย
นอกจากการใช้ในการพ่นสารเคมีแล้ว โดรนยังสามารถใช้ในการพ่นปุ๋ยอินทรีย์หรือเคมีเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตของพืช โดยจะช่วยให้การพ่นปุ๋ยมีการกระจายทั่วทั้งแปลงได้เท่าที่ต้องการ และลดเวลาการใช้งานและทรัพยากรในการพ่นปุ๋ยเป็นพิเศษ ในทางปฏิบัติ การใช้โดรนในการพ่นสารเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์นั้นได้รับการใช้งานอย่างกว้างขวางในการเกษตรและการปฏิบัติงานด้านการดูแลสวนผลไม้และพืชผัก โดยเฉพาะในพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีการจัดการแปลงปลูกในลักษณะพื้นที่กว้างขวาง และต้องการเวลาและทรัพยากรในการดูแลที่มีปริมาณมาก - การติดตามการเจริญเติบโตของพืช
โดรนสามารถใช้เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บนตัวเพื่อตรวจวัดสภาพอากาศ อุณหภูมิ ความชื้นในอากาศ และค่าความสว่าง ซึ่งสามารถช่วยในการควบคุมการเจริญเติบโต อีกทั้งโดรนยังสามารถใช้เทคโนโลยีทางด้านระบบสารสนเทศภูมิสารสนเทศและการประมวลผลภาพเพื่อติดตามและวิเคราะห์การเจริญเติบโตของพืชได้ โดยตรวจสอบการเจริญเติบโตของพืชเช่นการเจริญเติบโตของต้นไม้, การออกดอก, การผลิตผลผลิตภัณฑ์ ซึ่งสามารถช่วยให้เกษตรกรสามารถตรวจสอบสภาพพื้นที่และปรับปรุงการดูแลรักษาพืชได้อย่างถูกต้องและประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
โดรนสามารถใช้เซนเซอร์หรือกล้องถ่ายภาพเพื่อตรวจสอบการเจริญเติบโตของพืช โดยสามารถตรวจสอบความเขียวเข้มของใบพืช ความสูงของต้นพืช และการแตกใบอ่อนของพืช ด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลภาพและการเรียนรู้เชิงลึก โดรนสามารถระบุพื้นที่ที่มีปัญหาเพื่อช่วยในการวางแผนการจัดการที่เหมาะสมให้กับแปลงปลูกด้วย นอกจากนี้ โดรนยังสามารถตรวจสอบและระบุแหล่งกำเนิดของโรคหรือแมลงที่กำลังลุกลามในแปลงปลูก เพื่อช่วยลดการสูญเสียของพืชและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการแปลงปลูก โดยมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพราะสามารถสแกนและวิเคราะห์พื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าพื้นที่จะมีขนาดใหญ่โดยเทียบกับการตรวจสอบด้วยวิธีการทางดิน
การใช้เทคโนโลยีโดรน (Drone Technology) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการและควบคุมภายในฟาร์มอัจฉริยะเป็นเรื่องที่มีการพัฒนาขึ้นมาเมื่อไม่นาน โดยในตอนแรกโดรนถูกนำมาใช้ในงานสำรวจและควบคุมทางด้านทหารและการทำนาขั้นสูง ต่อมาได้มีการพัฒนาโดรนให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีที่มีการสร้าง AI และ Machine Learning เข้ามาช่วยในการควบคุมโดรน ทำให้โดรนสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องมากขึ้น